บทความก่อนหน้านี้เราได้มีการอธิบายการลงโฆษณาผ่าน Google ซึ่งแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายในการลงโฆษณานั้นอาจจะสูงเกินความจำเป็นและอาจจะไม่เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีขนาดเล็กบางประเภท วันนี้เราจะมาพูดถึงการโฆษณาออนไลน์บน Facebook , Instagram แน่นอนว่า 2 ตัวเลือกนี้มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า Google และอาจเป็นไปได้ว่า Facebook , Instagram อาจจะเหมาะสมกับธุรกิจที่มีขนาดเล็กก็เป็นได้
มาเริ่มกันที่ Facebook โฆษณา Facebook ใช้กับแนวคิดแบบเดียวกันกัน Google AdWords คือ เสียค่าโฆษณาก็ต่อเมื่อมีการคลิกเกิดขึ้น หรือเสียค่าโฆษณาเมื่อมีการแสดงผล Huffington Post หนังสือพิมพ์ออนไลน์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในสหรัฐอเมริกาได้มีการขอบคุณ Facebook ว่า “ขอบคุณสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลในฐานข้อมูลของ Facebook เพราะพวกเขาช่วยให้คุณรู้ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ สิ่งที่ผู้ใช้สามารถใส่ลงไปในโปรไฟล์ของพวกเขาได้ถือว่าเป็นประโยชน์มาก เช่น อายุ เพศ สถานที่ การศึกษา ศาสนาความสนใจการเมือง ตำแหน่งงาน สถานภาพสมรส ฯลฯ ซึ่งสามารถใช้เป็นตัวกรองสำหรับโฆษณาของคุณได้” และส่วนที่ดีที่สุดของ Facebook คือ โฆษณา Facebook มีราคาไม่แพงอย่างที่คิด!
สถิติ Facebook ที่น่าสนใจ
– โดยเฉลี่ยแล้วแพลตฟอร์มนี้มีผู้ใช้งานรายเดือนอยู่ที่ 1.71 พันล้านคน และผู้ใช้งานเฉลี่ยรายวัน 1.13 พันล้านคน
– ทุกคนบน Facebook สามารถเชื่อมต่อกันได้ทั่วโลก
– Facebook ใช้เวลา 22% ของชาวอเมริกันที่ใช้เวลาบนอินเทอร์เน็ตในโทรศัพท์มือถือเมื่อเทียบกับ Google และ YouTube ที่รวมกันแล้วชาวอเมริกันใช้เวลากับพวกนี้เพียง 11% เท่านั้น
การโฆษณาบน Facebook มักล้มเหลวมาจากเหตุผล 2 ประการ คือ
1. ธุรกิจที่ไม่ได้มีกลยุทธ์ที่มั่นคงอยู่ในสถานที่
2. พวกที่ใช้ Facebook Ads ด้วยเจตนาที่ไม่ถูกต้อง สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องจำไว้ก็คือโฆษณาของ Facebook เป็นแบบ Passive ซึ่งหมายความว่าโฆษณาอาจจะแสดงผลกับผู้ที่อาจจะกำลังสนใจสินค้าหรือไม่สนใจสินค้าคุณ การขายสินค้าบน Facebook อาจจะดูให้ยุ่งยาก แต่สุดท้ายความสำเร็จขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ของคุณ
Matthew Tyson นักยุทธศาสตร์การตลาด เคยวิเคราะห์ไว้ว่าการใช้ Facebook Ads สำหรับธุรกิจขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ได้แก่
1) ธุรกิจที่ต้องการเพิ่มการสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จักและการเปิดรับข่าวสารทางสังคม
2) ธุรกิจที่ต้องการทราบข้อบกพร่องของสินค้าเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไข
ในแง่ของการวัดผลแคมเปญ Facebook ของคุณ คุณควรมุ่งเน้นการคำนวณค่าตอบแทนจากการลงทุนทางสังคม โดยวัดว่าผู้ชมของคุณมีส่วนร่วมอย่างไรบ้าง โดยดูจากการแสดงผลการเข้าถึงการแชร์ อัตราการคลิกผ่านและอื่นๆ คุณสามารถวิเคราะห์เมตริกเหล่านี้ได้แบบเรียลไทม์และปรับเปลี่ยนโฆษณา Facebook ของคุณไปพร้อมกันเพื่อเพิ่มกระแสให้มากกว่าเดิม
คุณควรใช้โฆษณาบน Facebook หรือไม่? สรุปได้ว่าการโฆษณาใน Facebook เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการทำการตลาดธุรกิจที่มาขนาดเล็กของคุณมากที่สุด เพราะในความเป็นจริง 92% ของนักการตลาดทางสังคมมักจะใช้การโฆษณาบน Facebook เพื่อสร้างแบรดน์ให้เป็นที่รู้จักไม่ว่าจะเป็นแบรดน์ที่มีมานานหรือว่าพึ่งเกิดขึ้นใหม่ก็สามารถใช้เครื่องมือนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องแน่ใจว่าคุณมีกลยุทธ์และกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
แพลตฟอร์มสุดท้ายที่จะพูดถึงสำหรับการโฆษณาออนไลน์คงนี้ไม่พ้น Instagram นับตั้งแต่เปิดตัว 7 ปีที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า Instagram ไม่เพียง แต่สำหรับภาพ selfies และภาพสัตว์เท่านั้น Instagram เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชั้นนำ สำหรับการแสดงเนื้อหาภาพโดยมีผู้ใช้งานรายเดือนกว่า 600 ล้านคน แต่แพลตฟอร์มนี้ถ้าวิเคราะห์กันจริงๆแล้ว ระดับการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ การมีส่วนร่วมกับแบรนด์ใน Instagram มีค่ามากกว่า Facebook 10 เท่าและสูงกว่า Pinterest 54 เท่าและสูงกว่า Twitter ถึง 84 เท่า และไม่น่าเชื่อว่าแพลตฟอร์มนี้มีชื่อว่า “The king of social media”
Instagram มีการจัดเก็บข้อมูลหรือมีคนอัพรูปภาพ 4.2 พันล้านครั้งต่อวัน
Instagram มีผู้ลงโฆษณารายเดือนมากกว่า 1 ล้านรายเพิ่มขึ้นห้าเท่าจากปีที่ผ่านมา
ในความเป็นจริงการเพิ่มขึ้นของนักการตลาด อาจเป็นส่วนสำคัญในการให้ความสำคัญกับการให้บริการแก่ธุรกิจขนาดเล็ก และชุดเครื่องมือทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากการให้สถิติที่สำคัญทั้งหมดแล้ว Instagram ยังช่วยให้ บริษัท ต่างๆสามารถสังเกตดูว่าโพสต์ที่ยังไม่ได้ชำระ ดำเนินการได้อย่างไรก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้แคมเปญโฆษณาที่เหมาะสมและดีที่สุด
จริงๆแล้ว Instagram จะมีความสามารถที่คล้ายกันกับ Facebook ซึ่งนั่นหมายความว่าจะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กที่เป็นประเภทธุรกิจเฉพาะเจาะจงสามารถหาลูกค้ารายใหม่ๆ ผ่านทางความสามารถในการกำหนดเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้ลักษณะ เช่น เพศ กลุ่มอายุ และความสนใจเพื่อกำหนดเป้าหมายแคมเปญโฆษณาของคุณ
อย่างไรก็ตามธุรกิจขนาดเล็กจำเป็นต้องคำนึงถึงผู้ชมกลุ่มเป้าหมายและวิธีการเข้าถึงพวกเขา คุณต้องสามารถสร้างภาพที่ทำให้เกิดการตอบสนองจากผู้ชมรายนั้นได้ ดังนั้นการวิเคราะห์โดยละเอียดถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก
นอกจากนี้สิ่งที่คุณควรรู้คือการสร้างโปรไฟล์ธุรกิจบน Instagram คุณต้องสามารถเชื่อมต่อกับ Facebook Business Page ได้ เนื่องจาก Instagram ทำงานร่วมกับ Facebook เพื่อดึงข้อมูลผู้ชมที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญโฆษณาของคุณ ดังนั้นคุณจะต้องตั้งค่าโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์เหล่านี้ก่อนที่จะเริ่มต้น
คุณควรใช้โฆษณาบน Instagram หรือไม่??
Instagram มีมูลค่าการลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะธุรกิจขนาดเล็ก แม้ว่าคุณจะยังไม่ได้ใช้งาน Instagram ก็ตามแต่คุณสามารถสร้างสิ่งต่างๆต่อไปนี้ด้วยความช่วยเหลือจากโพสต์ที่ได้รับการสนับสนุนของ Instagram อย่างไรก็ตามหากคุณไม่เข้าใจผู้ชมเป้าหมายของคุณอย่างชัดเจน คุณอาจจะต้องย้อนกลับไปศึกษาและกำหนดกลุ่มเป้าหมายเพื่อที่คุณจะสามารถใช้เครื่องมือนี้ได้อย่างเกิดประโยชน์ที่สุด
Admin Maroom
ขอบคุณที่มา https://www.entrepreneur.com/article/294095