สวัสดีครับ วันนี้ทีมงาน Above all มีคำแนะนำเบื้องต้นมาฝาก สำหรับผู้ที่ต้องการมี Website แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ต้องจัดหา และเตรียมข้อมูลอย่างไรบ้าง ซึ่งมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างวุ่นซะเหลือเกิน ทางเรามีวิธีมาแนะนำ อาจเป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่ไม่มากก็น้อยครับ
1.การคิดชื่อ Website (เว็บไซต์) สำหรับข้อนี้คล้ายๆ เหมือนการตั้งชื่อบริษัทนั่นแหละครับ อาจตั้งชื่อตามองค์กร หรือสินค้าของท่านก็ได้แบบง่ายๆ เพราะเป็นการบ่งบอกตัวตนของท่านอยู่แล้ว ส่วนการตั้งชื่อ Domain Name ผมขอยกตัวอย่าง เช่น www.Above–all.co.th หรือ www.Aboveall.com มีให้เลือกตั้งแต่ .net .org .com .co.th ส่วนรายละเอียดของนามสกุลโดแมนแต่ละชนิด ฝากติดตามบทความในครั้งหน้าครับ
2.การเลือก Hosting (โฮสติ้ง) หรือเข้าใจได้ง่าย ก็คือพื้นที่การใช้งานบน Website โดยนำ Domain ชื่อมายังจุด เปรียบเทียบ เช่น ถ้าเราจะสร้างบ้านสักหลัง เราก็ควรมีที่ดินและพื้นที่การใช้สอยเสียก่อน โดยแสดงเป็นค่า MB ตั้งแต่ 100 BM ขึ้นไป สิ่งสำคัญควรเลือกผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ และสามารถแก้ปัญหาให้ท่านได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการ Back Up ข้อมูลอีกด้วย เพราะมีปัญหาการเข้าเว็บไซต์ไม่ได้ ที่เกิดจาก Hosting อยู่บ่อยครั้ง และสรุปง่ายเลยว่า Hosting คือพื้นที่การใช้งานทั้งหมด ของ Website
3.การบ่งบอกตัวตน อย่างแรกเลยที่ท่านต้องรู้คือ จุดประสงค์ของการสร้างเว็บไซต์ท่านคืออะไร เพราะสิ่งสำคัญคือ ผู้ที่เข้ามาชมต้องทราบว่า เว็บไซต์ของท่านนั้นนำเสนออะไร ซึ่งควรมีความชัดเจนเข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังสื่อออกไป ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ประกาศซื้อ – ประกาศขายสินค้า
, เว็บไซต์แหล่งรวมข้อมูลข่าวสาร , เว็บไซต์ที่ใช้งานสำหรับบริษัท , หรือเว็บบอร์ด เป็นต้น
4.โครงสร้างเว็บไซต์ เช่น โทนสี Layout การใช้งานที่ไม่ยากจนเกินไป รวมถึงแบบดีไซน์ ทั้งข้อความตัวอักษร อย่างบางครั้งตัวอักษรกับสีทำให้อ่านยาก ไม่มีความ MatChing กัน และมีลักษณะการใช้งานที่ซับซ้อน ก็อาจจะทำให้ผู้ที่เข้าชม Website เรานั้น ไม่ค่อยจะแฮ๊ปปี้กับการท่องเว็บไซต์ของเราเท่าไรนัก เพราะฉะนั้นเราควรทำการบ้านให้ดี เพื่อช่วยในเรื่องของการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมที่มากขึ้นได้อีกด้วย
5.Content อย่างบทความ About us ในการบ่งบอกเกี่ยวกับ บริษัทของคุณ เช่น ก่อตั้งมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ขายสินค้าประเภทไหน คุณภาพของบริษัทคุณคืออะไร ทั้งการนำเสนอแบบรูปภาพ สินค้า และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Profile ของคุณ
6.กลุ่มเป้าหมาย ข้อนี้ยิ่งสำคัญมากๆ อย่างท่านจะขายสินค้าสักชิ้นหนึ่ง ก่อนอื่นเลยท่านต้องรู้ว่าผู้ที่มาซื้อของๆท่านคือใคร ควรมีการนำเสนอ Content ของกลุ่มลูกค้าแต่ละประเภทอย่างไร เพื่อให้เว็บไซต์ของท่านเป็นที่น่าสนใจต่อผู้เข้าชม ก็คือลูกค้าท่านนั่นเอง ทำยังไงก็ได้ให้ผู้เข้าชม Website ของคุณ ใช้งานบนเว็บไซต์ของคุณในเวลานานที่สุด เปอร์เซนต์การซื้อขายก็จะเพิ่มขึ้นอีกด้วยครับ
7.ภาพสินค้าของเรา ควรเป็นรูปภาพที่ดึงดูดผู้เข้าชม ความสวยงาม คมชัด การสอดคล้องเชื่อมโยงของข้อความและรูปภาพ เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน และ ชัดเจนมีรายละเอียดบ่งบอกอย่างเห็นได้ชัดในส่วนสินค้า
8.ช่องทางติดต่อ เป็นการบ่งบอกจุดหมายที่ตั้งบริษัทคุณ ควรระบุให้ละเอียดอาจจะทำในรูปแบบ Site map ก็จะยิ่งดี เพราะส่วนใหญ่จะมีเรื่องการของหลงทางอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เสียเวลาทั้งผู้ติดต่อ และลูกค้าของเราเองด้วยครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ไว้เจอกันใหม่ในบทความต่อไปนะครับ : )
Admin Pakkhom